Main Menu

Recent posts

#11
เท่ห์ไปอีก  :)
#12

Kawasaki W800 CAFE ใหม่คือวิวัฒนาการล่าสุดของรถในตระกูลที่มีประวัติความเป็นมายาวนานถึง 50 ปี เมื่อเทียบกับโมเดลเรโทร W800 มันมีรายละเอียดการอัพเดทชิ้นส่วนต่างๆมากมาย ถูกเติมเต็มความทันสมัยให้ออกมาเป็นรถจักรยานยนต์ที่ตอบสนองได้เป็นมิตรต่อผู้ขับขี่จากการควบคุมที่ง่ายและเสถียรภาพที่ดีในการใช้งาน ไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น เเต่มันคือความตั้งใจในการรักษาภาพลักษณ์และกลิ่นอายของ W1 รุ่นแรกเอาไว้

Kawasaki W800 CAFE  มาพร้อมกับมิติตัวรถที่น่าสนใจ ด้วยขนาดความกว้างอยู่ที่ 825 มิลลิเมตร ทางด้านความยาวอยู่ที่ 2,135 มิลลิเมตร เเละมีความสูงที่ 1,135 มิลลิเมตร โดยมีระยะห่างช่วงล้ออยู่ที่ 1,465 มิลลิเมตร ส่วนความสูงใต้ท้องรถอยู่ที่ 130 มิลลิเมตร เเละมีความสูงของเบาะนั่งที่ 790 มิลลิเมตร ถังน้ำมันเชื้อเพลิงขนาด 15 ลิตร ทำให้มีน้ำหนักรวมสุทธิอยู่ที่ 223 กิโลกรัม

ขุมกำลังเครื่องยนต์ของ Kawasaki W800 CAFE  นั้นเป็นเครื่องยนต์ VERTICAL TWIN  ที่มีขนาด 773 ซีซี เเบบ Air-cooled, 4-stroke Vertical Twin มีระบบวาล์วเเบบ SOHC, 8 valves ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก อยู่ที่ 77.0 x 83.0 มิลลิเมตร  อัตราส่วนแรงอัดอยู่ที่ 8.4 : 1 ส่วนระบบคลัทช์เป็นคลัทช์เปียกหลายแผ่นแบบธรรมดา โดยมีระบบเกียร์เป็นเเบบ 5 สปีด, ย้อนกลับ โดยมีระบบจุดระเบิดเป็นเเบบ ดิจิตอล ส่วนระบบจ่ายเชื้อเพลิงเป็นเเบบ Fuel injection: ø34 mm x 2 with sub-throttle โดยที่มีระบบสตาร์ทเป็นเเบบไฟฟ้า

Kawasaki W800 CAFE นั้นมีเฟรมเป็นเเบบ เฟรมท่อคู่ DOUBLE-CRADLE FRAME ส่วนทางด้านระบบกันสะเทือนหน้าเป็น ø41 mm telescopic fork ในขณะที่ระบบกันสะเทือนหลังเป็นเเบบ Twin shocks with spring preload adjustability ระบบเบรคด้านหน้าจะเป็นเเบบ Single ø320 mm discs, Twin-piston ระบบเบรคด้านหลังจะเป็นเเบบ Single ø270 mm disc, Twin-piston โดยที่ยางหน้ามีขนาด 100/90-18M/C 56H ส่วนยางหลังมีขนาด 130/80-18M/C 66H หน้าจอเเสดงผลการขับขี่เเบบคู่สไตล์คลาสสิค ส่วนไฟหน้า LED ดวงกลมขนาด ø170มิลลิเมตร อยู่ในกรอบเเบบคลาสสิค ให้แสงสีขาวที่สว่างชัดเจนและทัศนวิสัยอันเยี่ยมยอดสำหรับการขับขี่ในยามค่ำคืน ไฟหรี่รวมอยู่ในห้องของไฟสูงเพื่อให้ทุกส่วนของโคมส่องสว่างเหมือนกับโคมหน้าหลอดกลมสไตล์เรโทร รายละเอียดอย่างการเลือกใช้เลนส์นูนและกรอบโครเมียมช่วยเพิ่มความหรูหราและคลาสสิคให้กับตัวรถ ส่วนแฮนด์เดิ้ลบาร์และเบาะของ W800 CAFE มีตำแหน่งท่านั่งสไตล์วินเทจให้ความสบายในการใช้งานและสามารถรองรับขนาดตัวของผู้ขับขี่ได้เป็นวงกว้าง มาพร้อมท่วงท่าแบบสปอร์ตด้วยตัวที่โน้มไปด้านหน้ามากกว่า โดยตัวถังมีเพียงสีเดียวเท่านั้น คือสี METALLIC MAGNESIUM GRAY / GALAXY SILVER (2019)

ด้านราคาขายของ Kawasaki W800 CAFE  นั้นเคาะออกมาที่ 429,000 บาท
#13

Kawasaki Ninja 1000SX เป็นบิ๊กไบค์ขนาดใหญ่อีกรุ่นของคาวาซากิ ที่มาพร้อมกับสมรรถนะเครื่องยนต์ขนาดใหญ่เเละมีรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวสวยงามน่าขับขี่ไปในทุกเส้นทาง สร้างความประทับใจให้กับใครก็ตามที่ได้มาสัมผัสความแรงของรถรุ่นนี้ในทุกเส้นทาง

Kawasaki Ninja 1000SX มาพร้อมกับมิติของตัวรถที่ใหญ่ โดยมันมีความกว้างอยู่ที่ 825 มิลลิเมตร ทางด้านความยาวอยู่ที่ 2,100 มิลลิเมตร เเละมีความสูงที่ 1,190 มิลลิเมตร โดยมีระยะห่างช่วงล้ออยู่ที่ 1,440 มิลลิเมตร ส่วนระยะห่างจากพื้นอยู่ที่ 135 มิลลิเมตร เเละมีความสูงของเบาะ 835 มิลลิเมตร ถังน้ำมันเชื้อเพลิงขนาด 19 ลิตร ทำให้มีน้ำหนักรวมสุทธิอยู่ที่ 235 กิโลกรัม เป็นอีกโมเดลของคาวาซากิที่มีขนาดใหญ่เเละเต็มไปด้วยความน่าสนใจ

Kawasaki Ninja 1000SX มีสมรรถนะเครื่องยนต์ขนาดใหญ่เลยทีเดียว โดยมันพกพาขุมกำลังเครื่องยนต์ขนาด 1,043 ซีซี โดยเป็นเครื่องยนต์เเบบ Liquid-cooled, 4-stroke In-Line Four มีระบบวาล์วเเบบ DOHC, 16 valves ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก อยู่ที่ 77.0 x 56.0 มิลลิเมตร  อัตราส่วนแรงอัดอยู่ที่ 11.8 : 1 ส่วนระบบคลัทช์เป็นเเบบ  Wet multi-disc, manual โดยมีระบบส่งกำลัง 6-speed, return โดยมีระบบจุดระเบิดเป็นเเบบ Digital ส่วนระบบเชื้อเพลิงเป็นเเบบ Fuel injection (ø38 x 4) โดยมีระบบสตาร์ทเป็นเเบบ Electric เรียกว่าเป็นรถที่พกพาสมรรถนะสูงอีกรุ่นของคาวาซากิ

Kawasaki Ninja 1000SX มาพร้อมกับเฟรมเเบบอลูมิเนียม TWIN-SPAR / สวิงอาร์มอลูมิเนียม โดยเชื่อมต่อเป็นแนวตรงจากคอไปจนถึงแกนสวิงอาร์ม ส่วนทางด้านระบบกันสะเทือนหน้านั้นเป็นเเบบ ø41 mm inverted fork with compression and rebound damping and spring preload adjustability ส่วนระบบกันสะเทือนหลังนั้นจะเป็นเเบบ Horizontal Back-link, gas-charged rear shock with rebound damping and spring preload adjustability โดยระบบห้ามล้อหน้ามาพร้อมระบบ Dual semi-floating ø300 mm discs, Caliper- Dual opposed 4-piston ส่วนระบบห้ามล้อหลังนั้นจะเป็นเเบบ Single ø250 mm disc, Caliper- Single-piston โดยมีขนาดยางหน้า 120/70ZR17M/C (58W) ส่วนขนาดยางหลัง 190/50ZR17M/C (73W) หน้าจอเเสดงผลเป็นรูปเเบบใหม่ที่ขนาด 4.3 นิ้ว เเบบ all-digital TFT colour บรรจุระบบ KAWASAKI TRACTION CONTROL ทำงานได้ถึง 3 โหมด โคมไฟหน้ามีความสปอร์ตและโฉบเฉี่ยวสวยงาม รวมไปถึงไฟเลี้ยวทั้งสองข้างและไฟท้าย โดยทำงานด้วยระบบ LED นอกจากนี้ก็มีระบบ KAWASAKI QUICK SHIFTER เสริมเข้ามาอีกด้วยตัวบอดี้มีสีเดียวคือสี EMERALD BLAZED GREEN / METALLIC CARBON GRAY / METALLIC GRAPHITE GRAY (2020) ถือว่าสวยงามไม่เบา

สนราคาขายของ Kawasaki Ninja 1000SX นั้นเคาะราคาขายกันออกมาที่เรท 706,900 บาท สำหรับการจัดจำหน่ายในประเทศไทย นับว่าเป็นเรทราคาที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับรถบิ๊กไบค์ที่พกพาสเปกเทพๆ เเบบนี้
#14

New Ducati Scrambler Full Throttle เป็นอีกรุ่นในซีรีย์ของ Ducati Scrambler ที่มีความโดดเด่นเเละน่าสนใจเอาเป็นอย่างมาก เเละการเปิดตัวมาให้ในเเบบนิวเจนครั้งนี้ก็น่าจะสร้างกระเเสตอบรับได้ดีเหมือนเช่นเคย

ตัวรถของ New Ducati Scrambler Full Throttle นั้นก็ถือว่าน่าสนใจทางด้านมิติของตัวรถด้วยการที่มันมีน้ำหนักตัวรถเปล่าอยู่ที่ 170 กิโลกรัม ส่วนน้ำหนักรถพร้อมวิ่งจะอยู่ที่ 185 กิโลกรัม ส่วนความสูงของเบาะนั่งอยู่ที่ 795 มิลลิเมตร ความยาวของฐานล้ออยู่ที่ 1,449 มิลลิเมตร มุม Rake อยู่ที่ 24 องศา ส่วนระยะเทรลอยู่ที่ 108 มิลลิเมตร ถังบรรจุเชื้อเพลิงมีขนาดความจุ 13 ลิตร เบาะนั่งยาวชิ้นเดียวสามารถนั่งได้ 2 คน นับว่าลงตัว

ส่วนทางด้านของสมรรถนะเครื่องยนต์นั้น New Ducati Scrambler Full Throttle ก็มาพร้อมกับเครื่องยนต์เเบบ L-Twin, Desmodromic distribution, 2 valves per cylinder, air cooled ที่มีขุมพลังขนาด 803 ซีซี ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก อยู่ที่ 88 x 66 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่ 11 : 1 เครื่องยนต์สามารถให้กำลัง 73 เเรงม้าที่ 8,250 รอบต่อนาที ส่วนเเรงบิดอยู่ที่ 65.2 นิวตันเมตรที่ 7,000 รอบต่อนาที ส่วนระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นเเบบ Electronic fuel injection, 50 mm throttle body with Ride-by-Wire system ในขณะที่ระบบไอเสียจะเป็น Stainless steel muffler with catalytic converter and 2 lambda probes, aluminium tail pipes มีระบบเกียร์เป็นเเบบ 6 speed มี Primary drive ที่ 1=32/13 2=30/18 3=28/21 4=26/23 5=22/22 6=24/26 อัตรา Straight cut gears, Ratio 1.85:1 ส่วน Final drive เป็นเเบบ Chain, front spocket 15, rear sprocket 46 ทำงานร่วมกับระบบคลัทช์เเบบ Hydraulically controlled slipper and self-servo wet multiplate clutch นับว่าเป็นสเปกที่ใช้ได้เลยทีเดียว

ในส่วนของเฟรมนั้น New Ducati Scrambler Full Throttle มีเฟรมเเบบ Tubular steel Trellis frame ที่ได้รับการออกเเบบใหม่มาเป็นอย่างดี มีความเเข็งเเกร่งเเละทนทานสูง ส่วนระบบกันสะเทือนหน้าจะเป็นเเบบ Upside down Kayaba 41 mm fork ทางด้านระบบกันสะเทือนหลังจะเป็นเเบบ Kayaba rear shock, pre-load adjustable ระบบเบรกจะมีระบบเบรกหน้าเป็นเเบบ Ø330 mm disc, radial 4-piston calliper with Bosch Cornering ABS as standard equipment ส่วนเบรกหลังจะเป็นเเบบ Ø245 mm disc, 1-piston floating calliper with Bosch Cornering ABS as standard equipment ในขณะที่ส่วนของล้อหน้าจะเป็นเเบบ Light alloy 3.00" x 18" ล้อหลังเป็นเเบบ Light alloy 5.50" x 17"  โดยยางหน้าจะเป็นเเบบ Pirelli MT 60 RS 110/80 R18 ส่วนยางหลังเป็นเเบบ Pirelli MT 60 RS 180/55 R17 โคมไฟหน้าเป็นทรงกลมดวงเดียวขนาดใหญ่มีเหล็กกันกระเเทกคาดเเบบกากบาท แฮนด์จับยาว พร้อมกระจกเมืองหลังทรงกลมที่ปลายทั้งสองด้าน ส่วนไฟท้ายเเละไฟเลี้ยวเป็นเเบบ Full LED lights ทั้งหมด ท่อไอเสียเดี่ยวดูดุดันจอเเสดงผลการขับขี่มีขนาด 4.3 นิ้ว เเบบ TFT colour โดยเป้นทรงกลมผสมกับเหลี่ยมรูปเเบบใหม่ ที่พร้อมเชื่อมต่อระบบอื่นๆ อีกหลายระบบ ตัวบอดี้มีเฉดสีเดียวคือสีเเดง Rosso GP '19 ที่มาพร้อมกับกราฟฟิกหมายเลข 62 ที่ตัวรถ สวยงามเเละบ่งบอกความเป็นตัวตนได้เป็นอย่างดี

สนราคาของ New Ducati Scrambler Full Throttle นั้นต้องสอบถามกับทางดูคาติ ไทยเเลนด์อีกครั้งหนึ่ง แต่ก็นับว่าเป็น Café Racer เท่ห์ๆ ที่น่าจับตามมองมากอีกรุ่นของดูคาติ
#15

Ducati Hypermotard 950 เป็นรถอีกหนึ่งรุ่นในตระกูล Hypermotard ของดูคาติที่มีความร้อนเเรงน่าขับขี่ทั้งสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ดุดันเเละดีไซน์ที่เร้าร้อนชวนให้น่าสัมผัส ก็นับว่าเป็นรถอีกรุ่นที่น่าจับตามอง

มิติตัวรถของ Ducati Hypermotard 950 นั้นก็ถือว่าสมส่วนลงตัวด้วยขนาดน้ำหนักรถเปล่าที่ 200 กิโลกรัม ส่วนความสูงของเบาะนั่งอยู่ที่ 870 มิลลิเมตร ระยะส่วนโค้งของขาด้านในอยู่ที่ 1,940 มิลลิเมตร ความยาวของฐานล้ออยู่ที่ 1,493 มิลลิเมตร มุม Rake อยู่ที่ 25 องศา ส่วนระยะเทรลอยู่ที่ 104 มิลลิเมตร ถังบรรจุเชื้อเพลิงมีขนาดความจุ 14.5 ลิตร สามารถโดยสารได้ 2 คน เเบบ ดับเบิ้ลซีท

สมรรถนะเครื่องยนต์ของ Ducati Hypermotard 950 ก็เเรงไม่ใช่เล่น เมื่อมาพร้อมกับเครื่องยนต์เเบบ Testastretta 11°, L-Twin cylinder, 4 valve per cylinder, Desmodromic, liquid cooled, magnesium head covers ที่มีขุมพลังขนาด 937 ซีซี ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก อยู่ที่ 94 x 67.5 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่ 13.3 : 1 เครื่องยนต์สามารถให้กำลัง 114 เเรงม้าที่ 9,000 รอบต่อนาที ส่วนเเรงบิดอยู่ที่ 96 นิวตันเมตรที่ 7,250 รอบต่อนาที ส่วนระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นเเบบ Electronic fuel injection system, Ø 53 mm throttle bodies with full Ride by Wire system ส่วนระบบไอเสียจะเป็นเเบบ Double under-tail aluminum muffler; catalytic converter and two lambda probes มีระบบเกียร์เป็นเเบบ 6 speed ในขณะที่ Primary Drive เป็นเเบบ Straight cut gears, Ratio 1.54:1 มีอัตราที่ 1=37/15 2=30/17 3=28/20 4=26/22 5=24/23 6=23/24 ส่วน Final Drive นั้นเป็นเเบบ Chain; Front sprocket 15; Rear sprocket 43 ทำงานร่วมกับระบบคลัทช์เเบบ Slipper and self-servo wet multiplate clutch, hydraulic control ถือว่าเป็นสเปกเครื่องยนต์ที่เเรงอีกรุ่นของดูคาติ

Ducati Hypermotard 950 นั้นมีเฟรมที่ได้รับการออกเเบบมาใหม่ให้เป็นเเบบ steel trellis frame with variable-section tubes ที่มีความสวยงามเเละเเข็งเเกร่งเป็นอย่างยิ่ง โดยที่ระบบกันสะเทือนหน้าจะเป็นเเบบ Marzocchi aluminum fully adjustable, upside-down Ø 45 mm ส่วนระบบกันสะเทือนหลังจะเป็นเเบบ Progressive linkage with adjustable spring preload and rebound damping Sachs monoshock. Aluminium single-sided swingarm ในส่วนของระบบเบรกจะมีระบบเบรกหน้าเเบบ 2 x 320 mm semi-floating aluminum flange discs, radially mounted Monobloc Brembo callipers, 4-piston 2-pad, radial pump with adjustable lever, with Bosch Cornering ABS ล้อหน้าเเละหลังมีขนาด 170 mm (6.7 in) - 150 mm (5.9 in) โดยล้อหลังจะเป็นเเบบ Y shaped 3-spoke light alloy 5.5" x 17"  ในขณะที่ยางหน้าเป็นเเบบ Pirelli Diablo Rosso III, 120/70 ZR17 ส่วนยางหลังเป็นเเบบ Pirelli Diablo Rosso III, 180/55 ZR17 หน้าจอเเสดงผลการขับขี่มีขนาด 3.5 นิ้วเเบบ TFT colour display and dedicated warning light display ระบบไฟทั้งโคมไฟหน้า-ท้าย เเละไฟเลี้ยวเป็นเเบบ Full LED lights ทั้งหมด โดยไฟเลี้ยวอยู่ที่ที่กันเกระเเทกตรงเเฮนด์ พร้อมท่อไอเสียคู่ ตัวบอดี้มีสีเดียว เป็นสีเเบบ Ducati Red ที่สวยงามเเละบ่งบอกถึงความเป็นดูคาติอย่างเเท้จริง

ราคาจำหน่าย Ducati Hypermotard 950 ในประเทศไทยนั้นเคาะราคาขายออกมาที่ 499,000 บาท
#16

Triumph Thruxton RS เป็นรถจักรยานยนต์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอีกรุ่นของไทรอัมพ์  โดยที่มันเป็นรถจักรยานยนต์สุดเร้าใจในการขับขี่ ทั้งการบังคับรถ ความคล่องตัว และขีดความสามารถในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน สมกับสไตล์อันดุดันและงามสง่าเป็นอย่างยิ่ง

มิติตัวรถของ Triumph Thruxton RS นั้นน่าสนใจเพราะมันมีความกว้างของแฮนด์รถอยู่ที่ 745 มิลลิเมตร ความสูงไม่รวมกระจกอยู่ที่ 1,030 มิลลิเมตร ความสูงที่นั่ง 810 มิลลิเมตร ระยะระหว่างล้อหน้ากับล้อหลังอยู่ที่ 1,415 มิลลิเมตร เรคอยู่ที่ 22.8 องศา ส่วนเทรลอยู่ที่ 92 มิลลิเมตร ถังน้ำมันเชื้อเพลิงมีขนาดความจุ 14.5 ลิตร เเละมีน้ำหนักรวมสุทธิที่ 197 กิโลกรัม

สมรรถนะเครื่องยนต์ของ Triumph Thruxton RS นั้นถือว่าเเรงพอตัวด้วยเครื่องยนต์ในเเบบระบายความร้อนด้วยของเหลว, 8 วาล์ว, SOHC, ลูกสูบคู่ขนาน องศาการจุดระเบิด 270 องศา ที่มีขุมพลังขนาดใหญ่ 1,200 ซีซี กระบอกสูบขนาด 97.6 มิลลิเมตร ส่วนระยะชักอยู่ที่ 80 มิลลิเมตร ส่วนอัตราส่วนการบีบอัดอยู่ที่ 12.066:1 สามารถให้กำลังที่ 105 เเรงม้าที่ 7,500 รอบต่อนาที โดยมีเเรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 112 นิวตันเมตรที่ 4,250 รอบต่อนาที โดยมีระบบการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงอิเล็คทรอนิคส์แบบ Multipoint sequential ส่วนระบบท่อไอเสียเป็นแบบ 2 ออก 2 ปัดเงาพร้อมท่อเก็บเสียงปัดเงาคู่ทาง ด้านของไฟนอลไดรฟ์จะเป็นเเบบระบบโซ่โอริง โดยมันทำงานร่วมกับระบบคลัตช์เปียกแบบหลายแผ่นพร้อมระบบผ่อนแรง ทางด้านระบบเกียร์จะเป็นเเบบ 6 สปีด

เฟรมของ Triumph Thruxton RS จะเป็นเเบบโครงเหล็กคู่ ส่วนสวิงอาร์มเป็นเเบบสวิงอาร์มอะลูมิเนียมสองก้าน ชุบผิวเปลือย โดยล้อหน้าเป็นเเบบ ล้อซี่ลวด วงล้ออลูมิเนียมขนาด 17 x 3.5 นิ้ว ส่วนล้อหลังจะเป็นเเบบ ล้อซี่ลวด วงล้ออลูมิเนียมขนาด 17 x 5 นิ้ว โดยยางหน้าเป็นเเบบ 120/70 ZR17 ยางหลังเป็นเเบบ 160/60 ZR17 โดยที่มีระบบกันสะเทือนหน้าเป็นเเบบ โช้คหัวกลับแบบ Big Piston ขนาด 43 มิลลิเมตร  ของ Showa ปรับตั้งได้อย่างสมบูรณ์ ระยะยุบตัว 120 มิลลิเมตร ส่วนระบบกันสะเทือนหลังเป็นเเบบ โช๊ค Ohlins คู่พร้อมกระบอกสำรองน้ำมัน ปรับความหน่วงของการยุบตัวและการคืนตัวของโช๊คได้ ระยะยุบตัวล้อหลัง 120  มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับระบบเบรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเบรกหน้าจะเป็นเเบบ Brembo จานคู่ 310 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์ Brembo ชิ้นเดียว 4 สูบ พร้อมระบบ ABS ส่วนระบบเบรกหลังจะเป็นเเบบ จานเดี่ยว 220 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์ Nissin ลูกสูบคู่แบบลอย พร้อมระบบ ABS โดยทางด้านแผงหน้าปัด LCD มัลติฟังก์ชัน ที่มีพร้อมทั้งมาตรวัดความเร็วแบบอะนาล็อก มาตรวัดอัตรารอบแบบอะนาล็อก สัญลักษณ์แสดงตำแหน่งเกียร์ เกจน้ำมันเชื้อเพลิง ระยะทางที่วิ่งได้ก่อนน้ำมันหมด สัญลักษณ์เตือนการซ่อมบำรุง นาฬิกา ทริปคอมพิวเตอร์ ปุ่มเลื่อนและปุ่มโหมดบนแฮนด์รถ ติดตั้งปลอกมือจับปรับอุณหภูมิไฟฟ้า แสดงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง แสดงสถานะระบบควบคุมการยึดเกาะถนนและโหมดการขี่ ส่วนโคมไฟหน้าทรงกลมดวงใหญ่ 1 ดวง พร้อมไฟเลี้ยว เบาะนั่งยาวจำนวน 2 ที่นั่ง ตัวบอดี้มี 2 เฉดสีมาให้เลือก คือสีดำ เเละสีเทา-ดำ

ทางด้านราคาขายของ Triumph Thruxton RS  นั้นอยู่ที่เรทราคา 689,000 บาท ถือว่าเป็นรถอีกรุ่นที่น่าสนใจ
#17

Triumph NEW ROCKET 3 R CHROME EDITION เป็นหนึ่งใน Chrome Edition ของไทรอัมพ์ ที่มีภาพลักษณ์สุดอลังการ ด้วยตัวบอดี้ที่ดุดันกำยันเเละโดดเด่นเป้นอย่างมากด้วยการตกเเต่งสไตล์ Chrome Edition

Triumph NEW ROCKET 3 R CHROME EDITION มีมิติตัวรถที่มีขนาดใหญ่เเละลงตัวด้วยความกว้างของแฮนด์รถที่ 889 มิลลิเมตร ความสูงไม่รวมกระจกอยู่ที่ 1,065 มิลลิเมตร ความสูงที่นั่ง 773 มิลลิเมตร ระยะระหว่างล้อหน้ากับล้อหลังอยู่ที่ 1,677 มิลลิเมตร เรคอยู่ที่ 27.9 องศา ส่วนเทรลอยู่ที่ 134.9 มิลลิเมตร ถังน้ำมันเชื้อเพลิงมีขนาดความจุ 18 ลิตร เเละมีน้ำหนักรวมสุทธิที่ 291 กิโลกรัม อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 7.0 ลิตร/100 กิโลเมตร

Triumph NEW ROCKET 3 R CHROME EDITION มีเครื่องยนต์เเบบ สามสูบเรียง DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ โดยมีขุมพลังขนาดใหญ่ถึง 2,458 ซีซี กระบอกสูบขนาด 110.2 มิลลิเมตร ส่วนระยะชักอยู่ที่ 85.9 มิลลิเมตร ส่วนอัตราส่วนการบีบอัดอยู่ที่ 10.8:1 สามารถให้กำลังที่ 167 เเรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที โดยมีเเรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 221 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที โดยมีระบบจ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า ส่วนระบบไอเสียจะเป็นเเบบคอท่อไอเสียสแตนเลสเข้า 3 ออก 1 พร้อมปลายท่อเก็บเสียง 3 ทางและ CAT box อันเป็นเอกลักษณ์ของรถรุ่นนี้  ไฟนอลไดรฟ์ จะเป็นเเบบ เพลาขับเคลื่อนและเฟืองบีเวล โดยมันทำงานร่วมกับระบบคลัตช์แบบ ครัชท์ไฮดรอลิกพร้อมระบบช่วยผ่อนแรง ส่วนระบบเกียร์จะเป็นเเบบ 6 สปีด

เฟรมของ Triumph NEW ROCKET 3 R CHROME EDITION เป็นเเบบโครงอลูมิเนียม ส่วนสวิงอาร์มเป็นเเบบอลูมิเนียมแขนเดี่ยว ประสานงานการทำงานกันได้อย่างลงตัว ส่วนล้อหน้าเป็นเเบบล้ออลูมิเนียมหล่อ ขนาด 17x3.5 นิ้ว ในขณะที่ล้อหลังเป็นเเบบล้ออลูมิเนียมหล่อ ขนาด 16x7.5 นิ้ว  ส่วนยางหน้ามีขนาด 150/80 R17 V ยางหลังมีขนาด 240/50 R16 V โดยที่มีระบบกันสะเทือนหน้าเป็นเเบบ โช้คหน้าหัวกลับ Showa ขนาด 47 มิลลิเมตร  ระบบคาร์ทริดจ์พร้อมด้วยตัวปรับตั้งค่าการยุบตัวและการคืนตัว ที่มีระยะยุบตัว 120 มิลลิเมตร  ส่วนระบบกันสะเทือนหลังเป็นเเบบ โช้คอัพ Showa แบบมีซับแทงค์สามารถปรับตั้งได้เต็มระบบ พร้อมด้วยรีโมทควบคุมการปรับตั้งพรีโหลดแบบไฮดรอลิค ระยะยุบตัวล้อหลัง 107 มิลลิเมตร โดยที่ระบบเบรกนั้นเบรกหน้าจะเป็นเเบบจานเบรกคู่ขนาด 320 มิลลิเมตร พร้อมด้วยคาลิปเปอร์โมโนบล็อค Brembo M4.30 Stylema 4 ลูกสูบ และระบบ Cornering ABS ส่วนเบรกหลังเป็นเเบบ จานเบรกเดี่ยวขนาด 300 มิลลิเมตร พร้อมด้วยคาลิปเปอร์โมโนบล็อค Brembo M4.32 4 ลูกสูบ และระบบ Cornering ABS โดยมีหน้าจอมัลติฟังก์ชั่นแบบ TFT ด้วยรูปแบบการแสดงผลความเร็วแบบดิจิทัล ทริปคอมพิวเตอร์ วัดรอบแบบดิจิทัล แสดงตำแหน่งเกียร์ ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง สัญลักษณ์เตือนเข้าเซอร์วิส แสดงอุณหภูมิอากาศ นาฬิกา และโหมดการขับขี่ (Rain/Road/Sport/Rider-configurable) ระบบการเชื่อมต่อกับ TFT ของไทรอัมพ์สามารถเพิ่มอุปกรณ์เสริม Bluetooth ได้ โคมไฟน้าขนาดใหญ่ทรงกลม 2 ดวง เบาะนั่งสองที่นั่ง ตัวบอดี้มีสีดำตัดกับตัวถังที่ชุปโครเมียมอย่างสวยงาม

ทางด้านราคาขายของ Triumph NEW ROCKET 3 R CHROME EDITION  อยู่ที่ราคา 1,015,000 บาท โดยจะวางจำหน่ายเพียงหนึ่งปีเท่านั้น
#18

ผู้ขับขี่ที่กำลังค้นหาประสบการณ์ทัวร์ริ่งในแบบเต็มพิกัดกับรถมอเตอร์ไซค์ Grand American Touring สไตล์อเมริกันอย่าง Harley-Davidson ULTRA LIMITED ปี 2023 ที่มีสมรรถนะในแบบทัวร์ริ่งระดับพรีเมียม กับการขับขี่ที่ไม่มีอ่อนข้อเลย

Harley-Davidson ULTRA LIMITED ปี 2023 นั้นเป็นรถที่มีมิติตัวรถน่าสนใจด้วยขนาดความยาวตัวรถอยู่ที่ 2,600 มิลลิเมตร ส่วนทางด้านของระดับความสูงเบาะ ขณะไม่ได้บรรทุก อยู่ที่ 740 มิลลิเมตร ระยะใต้ท้องรถอยู่ที่ 135 มิลลิเมตร ส่วนระยะเยื้องของตะเกียบหน้าอยู่ที่ 26 ในขณะที่ส่วนท้ายมีขนาด 170 มิลลิเมตร ฐานล้อมีระยะ 1,625 มิลลิเมตร ยางล้อหน้าเป็นเเบบ BW 130/70B18 63H ส่วนยางล้อหลังเป็นเเบบ BW 180/55B18 80H โดยที่ยางจะแบบไบแอสแก้มดำ Dunlop Harley-Davidson Series โดยมีความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง 22.7 ลิตร ส่วนความจุน้ำมันเครื่องพร้อมไส้กรองอยู่ที่ 4.7 ลิตร ทำให้มีน้ำหนักขณะขนส่งอยู่ที่ 399 กิโลกรัมเเละมีน้ำหนักพร้อมขับขี่อยู่ที่ 416 กิโลกรัม ความจุสัมภาระมีปริมาตร 0.132 ลบ.ม.

Harley-Davidson ULTRA LIMITED ปี 2023 มีสมรรถนะที่สูง โดยพกพาความเเรงมากับเครื่องยนต์รุ่น Twin-Cooled Milwaukee-Eight 114 ที่มีขุมพลังขนาดใหญ่ถึง 1,868 ซีซี มีความกว้างของกระบอกสูบ 102 มิลลิเมตร มีจังหวะขึ้นลงของลูกสูบที่ 114.3 มิลลิเมตร โดยมีอัตราส่วนการอัดที่ 10.5:1 มีระบบเชื้อเพลิงเป็นระบบช่องฉีดเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์แบบต่อเนื่อง (ESPFI) เเละมีท่อไอเสียคู่ 2-1-2 กับปลายท่อแบบแคบลง โดยแรงบิดเครื่องยนต์อยู่ที่ 164 Nm มีแรงบิดเครื่องยนต์ (รอบต่อนาที) อยู่ที่ 3000 ให้กำลังเเรงม้าที่ 89 HP / 66 kW @ 5020 rpm ส่วนมุมเลี้ยวขวาอยู่ที่ 32 องศา ส่วนมุมเลี้ยวซ้ายอยู่ที่ 32 องศา ส่วนวิธีทดสอบการประหยัดเชื้อเพลิงเป็นเเบบ EU 134/2014 ทำให้มีการประหยัดเชื้อเพลิงอยู่ที่ 6.3 ลิตร/100 กิโลเมตร โดยระบบขับเคลื่อนหลักเป็นเกียร์ 6 สปีด มีอัตราทดของโซ่ 34/46

Harley-Davidson ULTRA LIMITED ปี 2023 มีเฟรมที่ได้รับการออกเเบบใหม่ตามสไตล์ของฮาร์ลีย์-เดวิดสันให้มีความเเข็งเเกร่งสูง โดยทางด้านแชสซีจะมี โช้คหน้าเป็นเเบบวาล์วแบบ Dual Bending ขนาด 49 มิลลิเมตร ในขณะที่โช้คหลังเป็นเเบบ ระบบกันสะเทือนด้านหลังมาตรฐานระดับพรีเมียมแบบปรับสูงต่ำได้ ล้อหน้าเเละล้อหลังล้ออะลูมิเนียม Slicer II พร้อมโค้ตสีใส ส่วนจานเบรกหน้าเป็นเเบบจานเบรกแบบสองชิ้น ทางด้านหลังจะเป็นเเบบจานเบรกแบบคงที่ ส่วนคาลิเปอร์เบรกเป็นเเบบ 4 ลูกสูบหน้ายึดกับที่และหลังขนาด 32 มิลลิเมตร ส่วนโคมไฟหน้าทรงกลมคลาสสิคสวยงาม 1 ดวง ขนาบด้วยโคมไฟดวงเล็กอีก 2 ดวง ซึ่งอยู่ในครอบกระจังสไตล์ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน อันเป็นเอกลักษณ์ ส่วนระบบไฟจะเป็นเเบบ LED ไฟต่ำขนาด 34 วัตต์ ความสว่าง 915 ลูเมน, ไฟสูง 37 วัตต์ ความสว่าง 915 ลูเมน พร้อมไฟตัดหมอกแบบ LED ขนาด 20 วัตต์ ความสว่าง 1,220 ลูเมน รวมเอาท์พุต 2,136 ลูเมนที่ไฟต่ำพร้อมไฟตัดหมอก, ไฟท้าย/ไฟหยุด และสัญญาณไฟหน้า 8 วัตต์/28 วัตต์ จอเเสดงผลจะมีมาตรวัดที่ออกแบบมาให้เสริมความโดดเด่นของรถแต่ละคัน จอแสดงผลจะแสดงมาตรวัดระยะทาง, มาตรบันทึกระยะทาง A, มาตรบันทึกระยะทาง B, ระยะทางที่ขับขี่ได้ก่อนน้ำมันเชื้อเพลิงหมด, ไฟแสดงสถานะเกียร์ และไฟบอกสถานะที่มีขนาดใหญ่ขึ้น มีระบบอินโฟเทนเมนต์เเบบ Boom! Box GTS พร้อมขนาดลำโพงมาตรฐาน 5.25 นิ้ว โดยตัวถังมี 5 เฉดสีทั้ง สีดำ Vivid Black/Chrome Finish, สีแดง Redline Red w/Chrome Finish, สีเทา Gray Haze/Silver Forture w/Chrome Finish, สีน้ำเงิน-เทา Bright Billiard Blue/Bright Gray w/Chrome Finish เเละสีแดง Heirloom Red Fade

ราคาขายของ Harley-Davidson ULTRA LIMITED ปี 2023 สำหรับรุ่นตัวถังสีดำ Vivid Black/Chrome Finish ขายที่เรท 1,692,000 บาท ส่วนรุ่นตัวถังสีแดง Redline Red w/Chrome Finish ขายราคา 1,707,000 บาท ส่วนรุ่นตัวถังสีเทา Gray Haze/Silver Forture w/Chrome Finish เเละสีน้ำเงิน-เทา Bright Billiard Blue/Bright Gray w/Chrome Finish ราคา 1,728,000 บาท เเละรุ่นตัวถังสีแดง Heirloom Red Fade ขายที่ราคา 1,895,000 บาท

#19

Harley-Davidson ROAD GLIDE SPECIAL ปี 2023 คืออีกหนึ่งรถสไตล์แบกเกอร์สมรรถนะสูงในสีแบล็คเอาท์หรือโครเมียมสว่าง เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติระดับพรีเมียมของ ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ที่น่าสัมผัสในยามนี้เป็นอย่างยิ่ง ถือว่าเป็นอีกหนึ่งมอเตอร์ไซค์ Grand American Touring สไตล์อเมริกันที่น่าสนใจ

Harley-Davidson ROAD GLIDE SPECIAL ปี 2023 มีขนาดความยาวตัวรถอยู่ที่ 2,430 มิลลิเมตร ส่วนทางด้านของระดับความสูงเบาะ ขณะไม่ได้บรรทุก อยู่ที่ 695 มิลลิเมตร ระยะใต้ท้องรถอยู่ที่ 130 มิลลิเมตร ส่วนระยะเยื้องของตะเกียบหน้าอยู่ที่ 26 ในขณะที่ส่วนท้ายมีขนาด 173 มิลลิเมตร ฐานล้อมีระยะ 1,625 มิลลิเมตร ยางล้อหน้าเป็นเเบบ 130/60B19 61H ส่วนยางล้อหลังเป็นเเบบ 180/55B18 80H โดยที่ยางจะแบบไบแอสแก้มดำ Dunlop Harley-Davidson Series โดยมีความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง 22.7 ลิตร ส่วนความจุน้ำมันเครื่องพร้อมไส้กรองอยู่ที่ 4.9 ลิตร ทำให้มีน้ำหนักขณะขนส่งอยู่ที่ 371 กิโลกรัมเเละมีน้ำหนักพร้อมขับขี่อยู่ที่ 387 กิโลกรัม ความจุสัมภาระมีปริมาตร 0.071 ลบ.ม.

Harley-Davidson ROAD GLIDE SPECIAL ปี 2023 มาพร้อมกับเครื่องยนต์รุ่น Milwaukee-Eight 114 V-Twin และแฟริ่งทรงจมูกฉลาม ที่มีขุมพลังขนาดใหญ่ถึง 1,868 ซีซี มีความกว้างของกระบอกสูบ 102 มิลลิเมตร มีจังหวะขึ้นลงของลูกสูบที่ 114.3 มิลลิเมตร โดยมีอัตราส่วนการอัดที่ 10.5:1 มีระบบเชื้อเพลิงเป็นระบบช่องฉีดเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์แบบต่อเนื่อง (ESPFI) เเละมีท่อไอเสียคู่ 2-1-2 กับปลายท่อแบบแคบลง โดยแรงบิดเครื่องยนต์อยู่ที่ 158 Nm มีแรงบิดเครื่องยนต์ (รอบต่อนาที) อยู่ที่ 3250 ให้กำลังเเรงม้าที่ 93 HP / 69 kW @ 5250 rpm ส่วนมุมเลี้ยวขวาอยู่ที่ 32 องศา ส่วนมุมเลี้ยวซ้ายอยู่ที่ 31 องศา ส่วนวิธีทดสอบการประหยัดเชื้อเพลิงเป็นเเบบ EU 134/2014 ทำให้มีการประหยัดเชื้อเพลิงอยู่ที่ 6.1 ลิตร/100 กิโลเมตร โดยระบบขับเคลื่อนหลักเป็นเกียร์ 6 สปีด มีอัตราทดของโซ่ 34/46

Harley-Davidson ROAD GLIDE SPECIAL ปี 2023 มีเฟรมที่ได้รับการออกเเบบใหม่ตามสไตล์ของฮาร์ลีย์-เดวิดสันให้มีความเเข็งเเกร่งสูง โดยทางด้านแชสซีจะมี โช้คหน้าเป็นเเบบวาล์วแบบ Dual Bending ขนาด 49 มิลลิเมตร ในขณะที่โช้คหลังเป็นเเบบ ระบบกันสะเทือนด้านหลังมาตรฐานระดับพรีเมียมแบบปรับสูงต่ำได้ ล้อหน้าเเละล้อหลังเป็นเเบบ Prodigy สี Gloss black ส่วนจานเบรกหน้าเป็นเเบบจานเบรกแบบสองชิ้น ทางด้านหลังจะเป็นเเบบจานเบรกแบบคงที่ ส่วนคาลิเปอร์เบรกเป็นเเบบ 4 ลูกสูบหน้ายึดกับที่และหลังขนาด 32 มิลลิเมตร ส่วนโคมไฟหน้าทรงเหลี่ยมคู่คลาสสิคสวยงามอยู่ในครอบกระจังสไตล์ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน อันเป็นเอกลักษณ์ ผสานด้วยระบบไฟเเบบ LED สำหรับไฟต่ำ 40 วัตต์ ความสว่าง 1,060 ลูเมน, ไฟสูง 60 วัตต์ ความสว่าง 1,560 ลูเมน, 8 วัตต์/28 วัตต์ สำหรับไฟท้าย/ไฟหยุด สัญญาณไฟหน้าและสัญญาณไฟเลี้ยวด้านหลังทางด้านมาตรวัดได้รับการออกแบบมาให้เสริมความโดดเด่นของรถแต่ละคัน จอแสดงผลจะแสดงมาตรวัดระยะทาง, มาตรบันทึกระยะทาง A, มาตรบันทึกระยะทาง B, ระยะทางที่ขับขี่ได้ก่อนน้ำมันเชื้อเพลิงหมด, ไฟแสดงสถานะเกียร์ และไฟบอกสถานะที่มีขนาดใหญ่ขึ้น โดยที่มีสีตัวถังเป็น ชุดสีทู-โทนที่ไม่เคยวางจำหน่ายที่ไหนมาก่อน มาด้วยกัน 6 เฉดสีทั้ง สีดำ Vivid Black/Black Finish, สีเงิน-ดำ Atlas Silver Metallic w/Black Finish, สีทอง-ดำ Prospect Gold w/Black Finish, สี น้ำเงิน-เทา Bright Billiard Blue/Bright Gray w/Black Finish, สีเหลือง-ดำ Industrial Yellow/Vivid Black/Black Finish เเละสีแดง Heirloom Red Fade 

โดยราคาขายของ Harley-Davidson ROAD GLIDE SPECIAL ปี 2023 นั้นเคาะราคาขายออกมาที่ 1,658,000 บาท
สำหรับรุ่นที่มีตัวถังสีดำ Vivid Black/Black Finish ส่วนรุ่นที่มีตัวถังสีเงิน-ดำ Atlas Silver Metallic w/Black Finish เเละสีทอง-ดำ Prospect Gold w/Black Finish มีราคาขายที่เรท 1,672,000 บาท
ส่วนรุ่นที่มีตัวถังสี น้ำเงิน-เทา Bright Billiard Blue/Bright Gray w/Black Finish เเละสีเหลือง-ดำ Industrial Yellow/Vivid Black/Black Finish มีราคาขายที่เรท 1,693,000 บาท ส่วนรุ่นที่มีตัวถังสีแดง Heirloom Red Fade  จะมีราคาขายที่ 1,884,000 บาท


#20

Suzuki All New Hayabusa คือบิ๊กไบค์เเนวสปอร์ตโดยเเท้ของซูซูกิ เเละเป็นรุ่นเรือธงที่เป็นตำนานเเละเป็นเจ้าของสถิติ Guinness World Records รถจักรยานยนต์คันแรกของโลกที่ทำความเร็วเกิน 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยรุ่นล่าสุดนั้นเป็น Hayabusa Gen 3 ที่ได้รับการออกเเบบให้มีความสวยงามล้ำสมัยเเต่ยังคงกลิ่นอายของความดั้งเดิมเเละมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดของซูซูกิบรรจุเข้าไป ทำให้มันกลายเป็นที่สนใจของบรรดาผู้ที่ชื่นชอบความเร็วจากทั่วโลก

มิติตัวรถของ Suzuki All New Hayabusa นั้นน่าสนใจไม่น้อย เมื่อมันมาพร้อมกับขนาความกว้าง 735 มิลลิเมตร ความยาวที่ 2,180 มิลลิเมตร เเละมีความสูงที่ 1,165 มิลลิเมตร ความยาวช่วงล้ออยู่ที่ 1,480 มิลลิเมตร เเละมีระยะห่างจากพื้น 125 มิลลิเมตร โดยมีความสูงเบาะนั่งที่ 800 มิลลิเมตร ถังน้ำมันเชื้อเพลิงมีความจุ 20 ลิตร ทำให้มีน้ำหนักโดยรวมอยู่ที่ 264 กิโลกรัม

ทางด้านสมรรถนะเครื่องยนต์ของ Suzuki All New Hayabusa นั้นถือว่าเเรงเป็นอย่างมาก เมื่อมันมาพร้อมกับขุมกำลังเครื่องยนต์ที่มีปริมาตรกระบอกสูบ 1,339.8 ซีซี โดยเป็นเครื่องยนต์ประเภท Four-Stroke, Liquid-Cooled, DOHC, In-Line Four มีระบบระบายความร้อนเป็นเเบบ Liquid-Cooled System ส่วนความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชักจะอยู่ที่ 81.0 x 65.0 มิลลิเมตร ระบบจุดระเบิดเป็นเเบบ Electronic ignition (Transistorized) ทำให้มีอัตราส่วนแรงอัดอยู่ที่ 12.5 : 1 ระบบเชื้อเพลิงเป็นเเบบ Fuel injection ส่วนระบบหล่อลื่นเป็นเเบบ Wet sump มีระบบสตาร์ทเป็นเเบบ Electric โดยที่มีระบบเกียร์เป็นเเบบ ระบบเกียร์ 6-speed constant mesh

ส่วนทางด้านเฟรมของ Suzuki All New Hayabusa นั้นเป็นเฟรมแบบทวิน-สปา และสวิงอาร์มอะลูมิเนียมอัลลอยด์ที่แข็งแกร่ง และมีน้ำหนักเบา เพิ่มสมรรถนะการควบคุมได้ดีเยี่ยม โดยมีระบบกันสะเทือนหน้าเป็นเเบบ Inverted Telescopic, Coil Spring, Oil Damped ส่วนระบบกันสะเทือนหลังเป็นเเบบ Link Type, Coil Spring, Oil Damped ในขณะที่เบรกหน้าจะเป็นเเบบ Brembo Stylema®, 4-Piston, Twin Sisc, ABS-Equipped ส่วนเบรกหลังจะเป็นแบบ Nissin, 1-Piston, Single Disc, ABS-Equipped โดยที่มีขนาดยางหน้าเป็นเเบบ 120/70ZR17M/C (58W), Tubeless  ส่วนขนาดยางหลัง เป็นเเบบ  90/50ZR17M/C (73W), Tubeless โดยทางด้านของโคมไฟหน้า ตะเป็นเเบบLED ที่มีดีไซน์ใหม่ สว่างคมชัด โดดเด่นด้วยไฟท้ายแบบ LED Combination ส่วนจอแสดงผลเป็นเเบบ TFT LCD แบบใหม่ ให้ผู้ขับขี่สามารถเห็น ข้อมูล Active Data ได้แบบ Real-Time ตัวบอดี้มาพร้อมกับสีสันถึง 6 สีให้ได้เลือกกันทั้งสี METALLIC THUNDER GRAY / CANDY DARING RED (CJH), สี PEARL VIGOR BLUE / PEARL BRILLIANT WHITE (JWN), สี METALLIC MAT BLACK No.2 / GLASS SPARKLE BLACK (KGL), สี GLASS SPARKLE BLACK / CANDY BURNT GOLD (B5L), สี METALLIC MATTE  SWORD SILVER / CANDY DARING RED (B5M) เเละสี PEARL BRILLIANT WHITE / METALLIC MATTE STELLAR BLUE (B5N)

ส่วนสนราคาขายของ Suzuki All New Hayabusa  นั้นเคาะราคาขายออกมาที่ 899,000 บาท โดนเป็นรถอีกรุ่นที่มีความน่าสนใจไม่ใช่เล่น